วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2554

วันแม่

                                                               ความเป็นมา
งานวันแม่จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2486 ณ.สวนอัมพร โดยกระทรวงสาธารณสุข แต่ช่วงนั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 งานวันแม่ในปีต่อมาจึงต้องงดไป เมื่อวิกฤติสงครามสงบลง หลายหน่วยงานได้พยายามให้มีวันแม่ขึ้นมาอีก แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร และมีการเปลี่ยนกำหนดวันแม่ไปหลายครั้ง ต่อมาวันแม่ที่รัฐบาลรับรอง คือวันที่ 15 เมษายน โดยเริ่มจัดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 แต่ก็ต้องหยุดลงอีกในหลายปีต่อมา เนื่องจากกระทรวงวัฒนธรรมถูกยุบไป ส่งผลให้สภาวัฒนธรรมแห่งชาติ ซึ่งรับหน้าที่จัดงานวันแม่ขาดผู้สนับสนุน ต่อมาสมาคมครูคาทอลิกแห่งประเทศไทย ได้จัดงานวันแม่ขึ้นอีกครั้ง ในวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2515
แต่จัดได้เพียงปีเดียวเท่านั้น จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2519 คณะกรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้กำหนดวันแม่ขึ้นใหม่ให้เป็นวันที่แน่นอน โดยถือเอาวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคมเป็นวันแม่แห่งชาติ และกำหนดให้ดอกไม้สัญลักษณ์ของวันแม่ คือ ดอกมะลิ

 
ดอกมะลิ สัญลักษณ์ของวันแม่
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นสมเด็จพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 พระนามเดิม หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร เป็นพระธิดาองค์ใหญ่ของหม่อมเจ้านักขัตรมงคล (ภายหลังได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็น พลเอกพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ)กับ หม่อมหลวงบัว กิติยากร เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2475 ณ บ้านของพลเอกเจ้าพระยาวงศานุประพัทธ์ (ม.ร.ว.สท้าน สนิทวงศ์) และท้าววนิดาพิจาริณี บิดาและมารดาของหม่อมหลวงบัว กิติยากร ตั้งอยู่ที่ 1808 ถนนพระรามที่ 6 อำเภอปทุมวัน จ.พระนคร  ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า "สิริกิติ์" มีความหมายว่า "ผู้เป็นศรีแห่งกิติยากร"
                          
                                                                   กลอนวันแม่

ยามที่ลูกประสบกับความทุกข์...หันไปที่ใดไม่มีคนเข้าใจ
แต่ก็ยังมีไอแห่งความอบอุ่น...จากบุคคลคนหนึ่งเสมอมา
บุคคลท่านนั้นก็คือแม่.....แม่ผู้เข้าใจในตัวลูก
ทำให้ลูกคนนี้มีกำลังใจที่จะก้าวเดินต่อไป....ในโลก

เมื่อรู้ว่าตัวเธอนั้นตั้งท้อง......เฝ้าประคองด้วยใจที่มุ่งหวัง
สิ่งที่ชอบเผ็ดร้อนเธอระวัง......เพื่อปกกันลูกน้อยจะกระเทือน
...แม้ไม่รู้ว่าจะชายหรือหญิง.....เธอประวิงเฝ้านับครบวันเคลื่อน
แม้จะเจ็บจะกลัวตัดทั้งปวง.....เธอปลื้มทรวง.....เสียงแว้..แรกเริ่มดัง

เริ่มตั้งไข่...ใจพองประคองลูก....ความพันผูกแนบแน่นสุดขานไข
เริ่มหัดเดินหัดพูดแม่สุขใจ...ก้าวแรกได้ให้ลูก..ด้วยผูกพัน
...แม่เป็นครูคนแรกของชีวิต....ชี้ถูกผิดให้ลูกรู้ด้วยความฝัน
เติบโตใหญ่รวยจนไม่สำคัญ....ขอลูกฉันเป็นคนดีของสังคม

มาวันนี้แม่เริ่มแก่..ชะแรล้า แม่มองหาลูกทุกคน...อยู่ที่ไหน
จากอกแม่..ลืมแม่ไม่หวงใย.....ถึงเศร้าใจ...แต่แม่ไม่โกรธเคือง
...ถ้าใครยังมีแม่ขอเชิญเถิด.....กราบเท้าเทิดบาทแม่ประเสริฐเหลือ
กตัญญูรู้คุณบุญคุ้มตัว....แม้สิ่งชั่วต้องแพ้พ่าย...กตเว..ทิตาคุณ

รักของแม่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งไหน…......…หาสิ่งใดมาเทียบมิได้หนา
ตั้งแต่แม่ตั้งท้องคลอดลูกยา................อีกน้ำนมของมารดาให้ลูกกิน
แม่ถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงลูกน้อย........แม่เฝ้าคอยพัดวีให้ลูกสิ้น
แม่ยอมอดเมื่อให้ลูกนั้นได้กิน…….........แม่ยลยินลูกน้อยดั่งกลอยใจ

อันคุณแม่นั้นรัก.......ในบุตร
ช่างโปร่งใสบริสุทธิ์.....ทราบได้
มหาสมุทรลึกสุด.......นั้นหยั่ง ได้นา
แต่รักของแม่ไซร้.......ลึกล้ำสุดหยั่งถึง
คุณแม่เคยพูดไว้............นานวัน
การคบเพื่อนสนิทกัน.....เลือกได้
คบเพื่อนดีจะสุขสันต์.........พบสุข จริงแฮ
คบเพื่อนชั่วแม่เตือนไว้....หลีกลี้ให้ไกล

เหนือโลกหล้าหาใครเท่าแม่เรานี้
เหนือปฐพีที่ฉันพึงอาศัย
มหาสมุทรสุดแสน ณ แดนไตร
แม่ยิ่งใหญ่เหนือฟ้าพนาลี
แม้นอัปสรสวรรค์งามสุดแสน
แต่ก็แม้นน้อยกว่าแม่ฉันนี้
หรือทว่าป่ากว้างให้อากาศดี
แต่แม่นี้ให้ชีวีและเมตตา
ลูกดีได้แม่ดีใจกว่าทุกสิ่ง
ลูกเลวยิ่งแม่ไม่สุขทุกอุรา
ดีเหมือนแม่สักครึ่งหนึ่งพึงใจหนา
ลูกสัญญาเป็นคนดีมีวินัย

โอ้ร่มไทรใบหนาว่าสดชื่น
แสนร่มรื่นเย็นใจให้ร้อนหาย
มีเถาวัลย์พันคู่อยู่มากมาย
เราเย็นกายเย็นใจไต้ร่มมัน

ร่มแม่เย็นกว่าร่มไทรในขั้นต้น
ท่านบรรดลทุกอย่างและสร้างสรรค์
ลูกป่วยกายแม่ป่วยใจไปตามกัน
แสนสุขสรรค์แม่นั้นช่วยบรรเทา

แม่ที่หนึ่งเมตตามากำเนิด
แม่สองเลิศล้ำวิชามาประสาน
น้ำใดใดใต้ฟ้าสุธาธาร
ไม่เปรียบปานน้ำใจแม่แน่นอนเอย
หทัยของแม่ ดีแท้ยิ่งนัก
พวกเราจึงรัก ภักดีต่อแม่
มะลิสีขาว แพรวพราวจริงแท้
ขอมอบให้แด่ คุณแม่คนดี

จะกล่าวถึงพระคุณของแม่นี้ แม่ที่มีความรักอันยิ่งใหญ่
อยากให้ลูกนั้นรู้ถึงความใน ดวงหทัยของแม่มีแต่เรา
ลูกทั้งหลายจงฟังคำสั่งสอน ให้ว่านอนสอนง่ายไม่อายเขา
ถึงเป็นลูกคนจนเหมือนอย่างเรา จงคิดเอาให้ได้เถิดประเสริฐเอง
แม่จ๋าฟังลูกก่อนจะได้ไหม ลูกเสียใจที่ทำแม่ผิดหวัง
ต่อไปจะตั้งใจให้จริงจัง ลืมความหลังเจ็บช้ำตรำหัวใจ
จากนี้ไปจะฟังแต่คำแม่ ที่เที่ยงแท้แน่จริงกว่างสิ่งไหน
จะเป็นลูกที่ดีจะมีชัย สัญญาไว้กับแม่แน่แท้เอย

โลกยอมรับความรักอันสูงส่ง
ที่มั่นคงพันผูกลูกและแม่
เป็นความรักที่จริงใจในดวงแด
มีกระแสซาบซึ้งส่งถึงกัน
... ในเพศหญิงสิ่งนี้มีมากล้น
จับกมลทุกสิ่งเป็นมิ่งขวัญ
ไม่ว่าฐานะใดในใจนั้น
มีเท่าทันในด้านงานมารดา
...โอ้ละเห่ขวัญอ่อนนอนเสียนะ
แม่คอยจะกล่อมขวัญนะหนูจ๋า
หลับเถิดหลับให้สบายนะแก้วตา
สองแขนแม่โอบมาพาคุ้มภัย
...ในอ้อมกอดสอดแนบแอบอกอุ่น
รักละมุนลูกยาเฝ้าปราศรัย
เฝ้าถนอมกล่อมเกลี้ยงลูกเพียงใด
สำนึกได้ในพระคุณคุ้นเคยดี
... เมื่อลูกป่วยด้วยโรคใดใจแทบขาด
แม้อนาถทรัพย์จ่ายหมายเจ้านี้
ได้รอดปลอดภัยสบายดี
คุณแม่มียิ่งใหญ่ใดเทียมทัน
... ในวันแม่ปีนี้ขอมีส่วน
มาทบทวนบุญคุณหนุนเนื่องนั่น
ถึงวันนี้ยังพันผูกลูกเช่นกัน
ขอคุณแม่นั้นจงมีสุขขีเทอญ